Sunday, December 17, 2017

แก๊งคอลเซ็นเตอร์(ปลอม)


                    เราๆท่านๆที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์เป็นประจำจะพบข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดปรากฏต่อเนื่องแทบจะรายวัน จับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ดูจะจับไม่ได้เสียมาก(มากเพราะเป็นอาชีพยอดฮิตติดตลาดของพวกโจรไปแล้ว) บุคคลหลากหลายวงการมีประสบการณ์กับแก๊งพวกนี้ไม่เว้นแม้แต่ตุลาการและคนในเครื่องแบบ ใครไม่รู้เท่าทันก็ตกเป็นเหยื่อไป จากเดิมที่รู้จักแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฐานะผู้เสพข่าว เราก็ต้องมาผจญกับแก๊งพวกนี้เอง 

                    เมื่อเร็วๆนี้เราได้รับโทรศัพท์จากระบบอัตโนมัติเป็นเสียงผู้หญิงบอกว่าเป็นไปรษณีย์ไทยขอแจ้งว่ามีพัสดุหนึ่งชิ้นที่เรายังไม่ได้รับ ติดต่อสอบถามกด 9 เราก็กด 9 มีผู้หญิงรับสาย เขาอ้างว่าเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่ไปรษณีย์กลางแจ้งวัฒนะหลักสี่ เขาถามหมายเลขพัสดุ เราบอกว่าไม่มี เขาบอกว่างั้นขอชื่อที่อยู่จะค้นในฐานข้อมูลให้ ก็บอกชื่อที่อยู่ไป หญิงคนนี้บอกว่าตามฐานข้อมูลระบุว่าพัสดุที่เราส่งไปให้คนๆหนึ่งที่เขตประเวศไม่มีคนรับและตีกลับมาอยู่ที่ไปรษณีย์กลางเป็นพัสดุค้างส่งนานกว่า 30 วัน(ตอนแรกระบบบอกว่ามีพัสดุที่เรายังไม่ได้รับ แต่หญิงคนนี้บอกว่าเราเป็นคนส่ง) พร้อมกับระบุหมายเลขพัสดุ ปณ.และวันที่ที่เราส่งและผู้รับชื่อวิไล อยู่ที่นฤมลแมนชั่น แขวงประเวศ (ตอนหลังเราค้นข้อมูลข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนเน็ตพบว่าพวกเขาเคยใช้มุขนี้มาก่อน ตรงกันทั้งเนื้อหาและชื่อที่อยู่บุคคลที่ใช้สร้างเรื่อง)  เราบอกว่าเราไม่ได้เป็นคนส่งพัสดุชิ้นนั้น  เราสงสัยว่าคงเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลยขอให้เขาสะกดชื่อนามสกุลของเขา เขาบอกว่าชื่อกรรณิการ์ และเอานามสกุลดังสกุลหนึ่งมาอ้างเป็นนามสกุลของเขา(กลวิธีเพิ่มความน่าเชื่อถือ) แต่กลับสะกดนามสกุลผิด พอเราแย้งและขอให้เขาสะกดใหม่ เขาก็ใช้ท่าทีไม่พอใจแล้วพูดบ่นวกวนไม่หยุด บอกเสร็จว่าหัวหน้าเขาชื่ออะไร ถ้าเราไม่ได้เป็นคนส่งก็ให้เรายืนยันกับเจ้าหน้าที่แล้วให้ไปแจ้งความและไปขอดูวงจรปิดที่ไปรษณีย์ประเวศ(สร้างเรื่องให้ดูขึงขัง) ถ้าเราถามอะไรที่เขาตอบไม่ได้ก็จะบ่ายเบี่ยงว่าที่เขามีข้อมูลแค่นี้เขามีหน้าที่แจ้งเราเท่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไปแล้ว แต่พอถามว่าจะให้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ที่ไหน เขาตอบไม่ได้ อ้างว่าฐานข้อมูลมันขึ้นแค่นี้ ก่อนจะวางโทรศัพท์เขาบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเราภายใน 5 ถึง 10 นาที (ตอนแรกบอกว่าภายใน 3 ถึง 5 นาที คงลืมไปแล้วเพราะเขาพูดแทรกพูดตัดบทพูดวกวนตลอดเวลา)

                    อีก 19 นาทีต่อมามีชายคนหนึ่งโทรมา อ้างว่าเป็นร้อยตำรวจเอก...... จากภูธร 6 จังหวัดพิษณุโลก เราถามเขาว่ามีตำแหน่งเป็นอะไร เขาบอกว่าเป็น “พนักงานสืบสวนสอบสวน”(นี่ก็มั่ว ไม่เคยได้ยินตำแหน่งนี้) และแจ้งว่า “สำนักงานป้องกันและการปราบปรามการทุจริตการฟอกเงิน ปปง.” (มั่วมากๆ เรียกชื่อยังไม่ถูกเลย) มาตรวจสอบพัสดุพบสมุดบัญชี 30 เล่ม บัตร ATM 30 ใบ เงินสด 1 แสนบาท 24 รายชื่อ หนึ่งในนั้นเป็นสมุดบัญชีของเรา เป็นของธนาคาร...... อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งปปง. แจ้งว่า บัญชีนี้ใช้ในการฟอกเงิน มูลค่าเสียหายประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท ถ้าเป็นเรื่องของเราเขาจะส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว(ข่มขู่ให้ตกใจกลัว) เรารู้แต่แรกแล้วว่าเป็นไอ้พวกลวงโลก เราเลยบอกว่าส่งมาเลย ส่งมาเลย ถ้ามีหลักฐานก็มาเลย ไอ้ตำรวจปลอมมันกลับบอกว่ามีคนแอบอ้างปลอมเอกสารของเรา และทางสำนักงานป้องกันและการปราบปรามการทุจริตการฟอกเงิน(หน่วยงานบ้าบออะไรของมัน) แจ้งว่า ไม่ทันที่มันจะพูดต่อเราก็พูดแทรกว่า “โอ๊ย พูดยังไม่ชัดเลย เวรจริงๆ” เท่านั้นแหละได้เรื่อง น็อตมันหลุดกระเด็นทันที

มันสำราก  “ไอ้ควาย กูพูดกับมึงดีๆนะ”
เรา  “ก็มึงเป็นควายก่อนช่วยไม่ได้นี่ มึงอยากเป็นควายก่อน กูไม่รู้จะช่วยมึงยังไง”
มัน  “มึงน่ะควาย อีเหี้ยยยยเอ๊ย”
เรา “เอ็ดแม่มึงสิ ไอ้สัดเอ๊ย ไอ้เหี้ย ไอ้โง่ ไอ้ควาย”
ถึงตรงนี้ ไอ้ตำรวจเก๊ได้หลุดพูดบางอย่างที่เราต้องขอบคุณมันจริงๆ
มัน “มึงเมื่อไหร่จะไป เมื่อไหร่จะไป” (งงใช่ไหมว่ามันพูดอะไรของมัน เดี๋ยวจะเฉลยข้างล่าง)
เรา “มึงสิไป กูอยู่ของกูมาตั้งนานแล้ว (ตามด้วยคำสรรเสริญมันชุดใหญ่ยักษ์)”
มันพูดอีกสองคำซึ่งฟังไม่รู้เรื่องแล้ววางหูโทรศัพท์ไปเลย

                    การที่ตำรวจเก๊พูดว่า “มึงเมื่อไหร่จะไป เมื่อไหร่จะไป” ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องราวที่มันอุปโลกขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่รู้กันระหว่างมันหรือเครือข่ายของพวกมันกับเรา พวกนั้นบีบบังคับกดดันเราต่อเนื่องมายี่สิบเอ็ดปีเพื่อให้เราขายบ้านและที่ดินในย่านเอกมัยทองหล่อซึ่งเราอยู่มา 60 ปี(ตั้งแต่ พ.ศ. 2500)แบบขายทิ้งถูกๆ มุขก่อกวนประจำวันที่พวกเครือข่ายอำนาจนอกระบบใช้กับเราเป็นประจำทุกวันคือการไล่ด้วยคำว่า “ไป, ไปเลย” ถ้าเป็นด้านติดคลองก็จะใช้พวกสลัมที่บุกรุกคลองคอยตะโกนไล่ลอยๆ(ใช้คนที่อยู่อย่างผิดกฎหมายมาขับไล่คนที่อยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย) ยิ่งตอนนี้มาถึงจุดที่บีบพวกเขามากขึ้น เพราะอั้นไม่อยู่แล้ว เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมบางอย่าง เช่น มีการรื้อย้ายสลัมที่บุกรุกคลองบางส่วนออกไป เป็นสัญญาณบวกต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริเวณนี้ และเชื่อว่าปีหน้านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างซึ่งจะทำให้พวกเขาบีบบังคับเรายากยิ่งขึ้น พวกเขาเองก็คงมีเงื่อนไขและเงื่อนเวลาบางอย่างบีบอยู่ด้วย  สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ(Reverse Mortgage) ที่ล่าช้ามาเป็นปี(ทั้งที่ไม่น่าจะต้องล่าช้าขนาดนั้น)ก็ทำท่าจะต้องคลอดจริงๆแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะปิดกั้นเราทางเศรษฐกิจเพื่อบีบให้เราขายบ้านไม่ได้อีกต่อไปจึงต้องเร่งรัดเผด็จศึก

                    บ้านเราอีกด้านหนึ่งติดแฟลตตำรวจก็จะใช้บริการพวกสลัมที่เข้าไปใช้พื้นที่บริเวณแฟลตและลูกหลานตลอดจนครอบครัวตำรวจบางคนก่อกวน  โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นเดือนธันวาฯ 60 มานี้ จะมีกลุ่มคนซึ่งเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นพวกสลัมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ขึ้นไปจับกลุ่มส่งเสียงดังรบกวนอยู่บนตึกแฟลตตำรวจที่ติดกับบ้านเราแทบทุกวัน พอโทรแจ้ง สน. บ่อยๆเข้าก็เกิดเหตุโทรไม่ติดจนต้องใช้บริการ 191 แทน  ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้น มีกลุ่มคนอ้างว่าเป็นตำรวจจะขอเข้าบ้านตอนตีสี่กว่า วันนั้นเป็นวันที่ 16 กันยายน 2560 เวลา 4.23 น. เราเพิ่งอาบน้ำเสร็จ มีเสียงกระแทกประตูรั้วโครมคราม เสียงคนวิ่งเข้ามาจากหน้าบ้านผ่านใต้ถุนบ้านปีนรั้วออกไปด้านติดคลองแล้ววิ่งไปทางแฟลตตำรวจ(มันหนีตำรวจไปทางแฟลตตำรวจ??) ขณะเดียวกันก็มีชาย 4-5 คน อออยู่หน้าประตูรั้วโหวกเหวกดังอื้ออึง เราถามไปว่ามีอะไร ชายคนหนึ่งตะโกนตอบว่าเป็นตำรวจ มีคนทุบกระจกรถหนีเข้าบ้านเรา ขอเข้าไปในบ้านเราได้ไหม เราบอกว่าคนนั้นปีนรั้วออกไปทางแฟลตตำรวจแล้ว พวกเขาก็พากันออกไปจากจากซอย (ใครจะกล้าให้เข้าบ้านยามวิกาลอย่างนั้น ต่อให้เป็นตำรวจจริงก็เถอะ !!)

                    สรุป เหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้แท้จริงแล้วเป็นการหยิบยืมวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาใช้กับเรา เสียดายที่เราไม่ได้เล่นไปกับเขาเลยไม่รู้ว่าพวกนั้นต้องการอะไรแน่ แต่เมื่อเอามุขนี้มาใช้ก็พอจะคาดเดาได้ว่ามีเป้าประสงค์จะดูดเงินเราออกไปให้มากที่สุด ซึ่งหากสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ(Reverse Mortgage) ที่เรารออยู่ต้องล่าช้าออกไปอีก(จะด้วยเหตุที่แปลกประหลาดพิศดารใดๆก็ตามไม่ว่าจะเป็นคลอดช้าหรืออนุมัติช้า) เราก็จะถูกบีบจนต้องขายที่ทิ้งถูกๆตามที่พวกเขาต้องการ เฮ้อ! ไม่รู้คิดแผนนี้ได้ไง ระยะนี้ข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดมีให้เห็นทุกวัน เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วละลุง แถมยังมาหลุดเผยไต๋ไล่เราอีก เราเลยรู้ว่าเป็นพวกแก๊งโจรปล้นที่ดินนี่เอง มีข้อสังเกตว่าหญิงที่อ้างตัวเป็นประชาสัมพันธ์ไปรษณีย์กลางมีความชำนาญในการพูดจาหว่านล้อมและบ่ายเบี่ยงเมื่อถูกซักไซร้ราวกับคนทึ่คุ้นเคยกับงานประเภทนี้ จึงสงสัยว่าเครือข่ายที่บีบบังคับกดดันเราอยู่นี้ใช้บริการจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงๆ และสงสัยต่อไปว่าพวกเขาอาจมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงหรือแม้แต่ทำมาหากินกับมิจฉาชีพกลุ่มอื่นๆด้วย    ...........เพราะเงินหมุนเวียนนอกระบบมันเยอะมากกกก !!