การกลั่นแกล้งกดดันที่กระทำต่อเรามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 พอสรุปได้ 4 วิธี คือ
วิธีที่หนึ่ง เน้นด้านจิตวิทยา
ด้วยการพยายามให้คนรอบข้างและสังคมต่อต้านเพื่อโดดเดี่ยวและก่อกวนไม่ให้ชีวิตมีความสุขในทุกที่ทุกโอกาส ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือนอกบ้าน กลางวันหรือกลางคืน พวกนี้จะทำตัวเหมือนลิงที่เกาะแน่นอยู่บนหลังของคุณ เป็นการกดดันเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าไม่มีที่ใดในเมืองไทยที่เราจะสามารถอยู่ได้ เหมือนดั่งวลีอมตะที่พวกเขาชอบใช้ข่มขู่ผู้อื่นจนชินปากว่า “ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ !”
สำหรับกลั่นแกล้งกดดันที่บ้านนั้น ตอนนี้จะขอพูดถึงเฉพาะบ้านที่อยู่ในปัจจุบันซึ่งเราย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อต้นปี 45 ที่นี่มีการใช้ผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองใกล้บ้านเป็นหลักในการก่อกวนทุกรูปแบบ มีการข่มขู่ให้กลัวด้วยวิธีการต่างๆ เช่น โทรศัพท์ข่มขู่ พูดข่มขู่ซึ่งหน้า ดูหมิ่นด่าทอ ใช้ของแข็งขว้างตัวบ้านและกระจกหน้าต่าง ปีนเข้ามาขโมยของและทำลายทรัพย์สินในบ้าน จุดระเบิดข่มขวัญ เป็นต้น พยายามให้ปัญหาระหว่างเรากับผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองกลุ่มที่เคยอยู่ติดรั้วบ้านของเรา บานปลายกลายเป็นปัญหากับผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองทั้งหมด โดยทำให้คนเหล่านี้เข้าใจว่าเราจะทำให้พวกเขาต้องถูกไล่รื้อถอนอาคารด้วย ทำให้คนอื่นๆช่วยกันกดดันกลั่นแกล้งเราโดยอัตโนมัติ ผู้นำชุมชนผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองคนหนึ่งถึงกับโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ซึ่งเราได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
ในช่วงที่มีการรื้อถอนอาคารผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองส่วนที่อยู่ติดกับบ้านเราซึ่งเป็นกลุ่มที่กลั่นแกล้งกดดันเราหนักมาก ผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองรายหนึ่งซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการกดดันเราที่จุดนี้ได้ปลุกระดมผู้บุกรุกที่สาธารณะรายอื่นๆจนเกิดเป็นม็อบย่อยๆมารุมด่าทอและพยายามทำลายประตูรั้วบ้านที่เราใช้เข้าออกทางด้านริมคลองจนได้รับความเสียหาย ต่อมาพี่ชายฝาแฝดของหัวโจกได้ใช้ของแข็งขว้างกระจกหน้าต่างบ้านแตก และยังได้ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย ซึ่งเราได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
วิธีที่สอง กดดันด้วยการทำลายสุขภาพ
โดยใช้ควันไฟ กลิ่นขยะ และกลิ่นสารเคมีชนิดต่างๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกายทุกวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นการทำร้ายแบบเงียบๆแต่ส่งผลรุนแรง นับเป็นการบ่อนทำลายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะในระยะปัจจุบันจะใช้วิธีนี้เป็นหลัก ซึ่งการก่อกวนวิธีนี้จะมาจากทุกทิศทางรอบบ้าน
การใช้กลิ่นสารต่างๆรบกวนทำให้เราต้องปิดประตูหน้าต่างด้านริมคลองและด้านข้างทั้งหมดเกือบตลอดเวลา จะเปิดบ้างก็เพื่อระบายอากาศเมื่อมีโอกาสเท่านั้น และเปิดหน้าต่างด้านที่มีการรบกวนน้อยกว่าไว้ แต่ก็ต้องคอยระวัง บางครั้งต้องเปิดพัดลมถึงสี่เครื่องพร้อมกันเพื่อไล่กลิ่นควันและสารต่างๆที่เข้ามา ช่วงใดที่พวกนี้ต้องการกดดันเราหนักๆจะมีการระดมรมควันและสารเคมีจากทุกทิศทางทั้งคืน บางครั้ง 3-4 คืนติดต่อกัน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการใช้กลิ่นควันและสารเคมีรมเราตอนกลางคืนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว หากคืนใดเราได้อากาศบริสุทธิ์ นั่นจึงเป็นเรื่องผิดปกติ
การกดดันด้วยควันไฟ กลิ่นขยะและสารเคมีต่างๆ หากดูเผินๆอาจคิดว่าเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง แต่สารเหล่านี้เป็นสารก่อมะเร็ง และกลิ่นขยะที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เมื่อร่างกายต้องรับสารนี้เข้าไปทุกวันๆ ถึงแม้จะปริมาณไม่มาก แต่การรับสารนี้เข้าไปอย่างต่อเนื่องก็ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ ในระยะสั้น ร่างกายจะอ่อนเพลียอยู่เสมอ ไม่สบาย เจ็บป่วยง่าย มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ ผิวหนังแสบร้อนระคายเคือง เป็นการกดดันทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนในระยะยาวก็สามารถเล็งเห็นผลได้ว่าจะเป็นอย่างไร หากเราต้องล้มเจ็บด้วยโรคร้ายเพราะกระทำเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรรม นับเป็นความทารุณโหดร้ายที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ
วิธีที่สาม การกดดันทางด้านเศรษฐกิจ
เป็นการทำลายความสามารถทางการเงินของเราทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เมื่อเริ่มค้นหาความจริงเรื่องการตายของพี่ชาย เราก็ถูกกดดันทางเศรษฐกิจมาตลอดโดยเริ่มจากต้นปี 2538 คนเช่าบ้านบอกเลิกสัญญาเช่า 3 ปีกระทันหัน ทั้งๆที่เพิ่งทำสัญญาเช่าได้ไม่กี่เดือน โชคยังดีที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
วิธีที่สี่ ทำลายหรือลดความน่าเชื่อถือ
โดยการปล่อยข่าว ใส่ร้ายป้ายสีเรา สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำให้คนอื่นเข้าใจไขว้เขวและใช้เป็นข้ออ้างบังหน้าในการร่วมกันกดดันเรา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และกลุ่มเป้าหมายที่จะปล่อยข่าวหรือป้ายสีด้วย คิดว่าเรื่องหลักที่ใช้ในการป้ายสีเพื่อให้ง่ายต่อการดึงคนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมประเภท “ร่วมด้วยช่วยกัน” คืออะไร ทุกคนคงจะทราบดี นอกจากนี้ยังใช้วิธีการยั่วยุให้โกรธเพื่อที่จะหาเรื่องทะเลาะวิวาท แล้วเอาไปปล่อยข่าวป้ายสีเรา บ่อยครั้งที่พวกนี้ใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการก่อกวน โดยบางครั้งถึงกับให้เด็กด่าว่าเราอย่างหยาบคายเพื่อยั่วให้มีปัญหากับเด็ก ซึ่งจะใช้เป็นจุดในการป้ายสีได้เป็นอย่างดี
สิ่งหนึ่งที่พวกนี้พยายามทำอยู่ตอนนี้คือ พยายามให้เรื่องราวออกมาในลักษณะที่ว่าสภาพปัญหาต่างๆที่เป็นอยู่ เป็นเพราะเรามีเรื่องส่วนตัวกับคนทั่วไป ไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้มีอิทธิพลอย่างที่เรากล่าวอ้าง...