Friday, October 29, 2004

การข่มขู่ให้กลัว


การข่มขู่ที่เราเผชิญมามีหลายรูปแบบ ที่พอจะสรุปได้อย่างเป็นรูปธรรมส่วนหนึ่งมีดังนี้

(1) ให้ผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองพูดข่มขู่ซึ่งบางครั้งก็เป็นการกระทำซึ่งหน้า เช่น ขู่ว่าจะปาระเบิดใส่บ้าน จะเผาบ้าน จะดักปาดคอที่ปากซอย นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์เข้ามาพูดข่มขู่ ซึ่งจำเสียงได้ว่าเป็นกรรมการคนหนึ่งในชุมชนผู้บุกรุกที่สาธารณะข้างบ้านเราเอง และเราได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
(2) ข่มขู่ด้วยการลักลอบเข้ามาในบ้านยามวิกาลและกระทำการบางอย่างไว้ให้เห็นเพื่อให้หวาดกลัว เช่น ใช้ของมีคมกรีดตัดใบไม้ให้เห็นชัดๆ และมีหลายครั้งหลายหนในเวลาใกล้ๆกัน มีการกรีดเชือกไนล่อน ที่ใช้เป็นราวตากผ้าให้ใกล้ขาด เมื่อเอาผ้ามาตาก ความหนักของเสื้อผ้าจะทำให้เชือกขาด (เชือกในล่อนขนาดเกือบเท่าปลายนิ้วก้อยและมีสภาพใหม่)
เหตุการณ์ที่ถือว่าอุกอาจที่สุดเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2546 ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ เมื่อถึงเที่ยงคืน ได้มีการจุดประทัดและระเบิดต่อเนื่องหลายสิบลูกในบริเวณที่พักตำรวจติดกับรั้วด้านทิศใต้ของบ้าน เสียงระเบิดดังกึกก้องอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะทำกันในเขตที่พักของตำรวจ หลังเสียงระเบิดหายไปสักพัก ได้ยินเสียงสุนัขที่บ้านตะกุยประตูห้องใต้ถุนบ้านด้วยความหวาดกลัว จึงลงไปดู และพบว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้สองตัว หายไปหนึ่งตัว พยายามตามหาบริเวณใกล้บ้านอยู่นานหลายวัน แต่ก็ไม่พบ
(3) ข่มขู่ด้วยเสียงระเบิดใกล้บ้าน กรณีนี้เป็นการข่มขู่มากกว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพราะเป็นเสียงระเบิดที่ดังมากและเกิดในจุดที่อยู่ติดบ้านของเรา เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งในวันขึ้นปีใหม่และวันเฉลิมฯ หรือแม้แต่วันธรรมดาทั่วไปที่พวกนี้นึกอยากจะทำ เป็นเรื่องแปลกที่สิ่งนี้เกิดขึ้นในบริเวณอันเป็นที่ตั้งของอาคารที่พักตำรวจ เราร้องเรียนมาตลอด แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยจริงจังกับปัญหานี้
(4) ข่มขู่ด้วยการขว้างของแข็งและสิ่งต่างๆข้ามาในบ้าน บางครั้งก็เกิดในเวลากลางคืน บางครั้งก็เกิดในเวลากลางวันแสกๆ เช่น มีการปาขวดน้ำปลา 2 ขวดใหญ่ เข้ามาในบ้าน เศษแก้วแตกกระจาย น้ำปลาหกเรี่ยราดเหม็นไปทั่ว ขว้างปารองเท้าแตะ งูเขียวหางไหม้ (ถูกทุบหัวแล้วแต่ยังไม่ตาย) และขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลังจำพวกกระทิงแดง (กระแทกตัวบ้านแตกกระจาย) เข้ามาในบ้าน

ดูรายละเอียดใน...ความเป็นมา...