นายปิยนันต์ มธุรมน
นายแพทย์ชำนาญการ
กลุ่มนิติเวชคลินิก
สำนักนิติวิทยาศาสตร์บริการ ๒
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน
และการบังคับบุคคลให้สูญหาย
ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายหลักการและเหตุผล
การทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นการละเมิด สิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และเป็นการกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่อาจยกเว้นให้กระทำได้ไม่ว่า สถานการณ์ใดๆ แม้ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และร่วมลงนาม ในอนุสัญญา คุ้มครองบุคคลจากการบังคับให้สูญหาย แต่ยังไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดฐานความผิด มาตรการป้องกัน และปราบปราม มาตรการเยียวยาผู้เสียหาย และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับ ข้อบทในอนุสัญญา ดังกล่าว จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียหายได้สมดังเจตนารมณ์ของ อนุสัญญาระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าผูกพันอีกทั้งอนุสัญญาทั้งสองต่างมีลักษณะร่วมกัน หลายเรื่องที่ กำหนดให้ประเทศภาคีต้องปฏิบัติการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับ การป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการ บังคับบุคคลให้สูญหายให้รวมกันอยู่ในฉบับเดียว จึงเป็นแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในประเทศไทยให้เทียบเท่าสากลจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑ - ๔ คำนิยามการทรมาน
. การกระทำหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี, การบังคับบุคคลให้สูญหาย,เจ้าหน้าที่ของรัฐ, ผู้เสียหาย, คณะกรรมการ, คดีทรมาน, คดีบังคับบุคคลให้สูญหาย, การจำกัด เสรีภาพบุคคล
หมวด ๑ การปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย (มาตรา ๕ - ๑๖)
. ความผิดและบทกำหนดโทษของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย
. ความผิดและบทกำหนดโทษของผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ได้รับการสนับสนุนและยุยง จากเจ้าหน้าที่ของรัฐให้กระทำทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย
. ความรับผิดและบทกำหนดโทษของผู้บังคับบัญชา . บทกำหนดอายุความ
. การห้ามรับฟังคำให้การที่ได้มาจากการกระทำทรมานหรือการบังคับบุคคลให้สูญหาย
หมวด ๒ การป้องกันการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย (มาตรา ๑๗ - ๒๔)
. หลักเกณฑ์ในจำกัดเสรีภาพของบุคคลโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
. สิทธิในการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกจำกัดเสรีภาพ
. สิทธิในการร้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งระงับการกระทำทรมานหรือบังคับบุคคลให้สูญหาย
. อำนาจศาลในการไต่สวนคดีเพื่อการระงับการทรมาน หรือบังคับบุคคลให้สูญหาย และเยียวยา ความเสียหายเบื้องต้น
. ข้อห้ามในการผลักดันกลับ (non-refoulement)
หมวด ๓ คณะกรรมการ (มาตรา ๒๕ - ๓๕)
. การแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย
. การกำหนดคุณสมบัติ วาระการดารงตาแหน่ง และอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ
. กำหนดให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเป็นสำนักงานธุรการของคณะกรรมการฯ
หมวด ๔ การดำเนินคดีทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย (มาตรา ๓๖ - ๔๓)
. การแจ้งความดำเนินคดีทรมานและคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย
. การขอให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือเข้าร่วมปฏิบัติ หน้าที่
. การกำหนดให้คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมีอำนาจมอบหมายให้พนักงานอัยการ หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจสอบสวนคดีอาญา
. เป็นพนักงานสอบสวนและพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ คนหนึ่งคนใดเข้าร่วมสอบสวนคดี
. ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจพิจารณาในการจัดให้มีนักนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์ หรือจิตแพทย์ เข้าร่วมในการสืบสวนสอบสวน
. การกำหนดให้การสืบสวนการสอบสวนและการดำเนินคดีทรมานและคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย ให้ใช้บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยอนุโลม
. การกำหนดให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ ดำเนินคดีและที่ปรึกษาคดี ได้รับค่าตอบแทนตามที่กำหนดในระเบียบของกระทรวงยุติธรรม
บรรณานุกรม
บันทึกหลักการและเหตุผล ประกอบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับ บุคคลให้สูญหาย. เข้าถึงได้จาก: https://voicefromthais.files.wordpress.com/2014/12/2.pdf. (วันที่ค้นข้อมูล 27 มีนาคม 2558)