Saturday, March 12, 2005

เลี้ยงรุ่น !


วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2548 เพื่อนที่ทำงานเก่าโทรมาชวนไปงานเลี้ยงรุ่นที่อบรมด้วยกันเมื่อ 24 ปีก่อน ประมาณบ่ายสามโมงเศษผมไปถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวสี่แยกพิชัย ตัวร้านเป็นห้องแถวหนึ่งคูหา เขาเลี้ยงกันที่ชั้นสองซึ่งเป็นห้องคาราโอเกะ ครั้งสุดท้ายที่ผมได้พบเพื่อนกลุ่มนี้คือในงานเลี้ยงรุ่นเมื่อ 6 ปีก่อน แต่บางคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 10 ปี ผมไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากเหล้าและเบียร์ กิจกรรมที่นั่นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าพูดคุยและร้องเพลง สำหรับผม จะฟังเป็นส่วนใหญ่ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สามทุ่มกว่าแล้ว ผมรู้สึกมึนๆจึงสั่งกาแฟร้อนหนึ่งถ้วย เด็กที่บริการอยู่ในห้องหายไปพักหนึ่งแล้วกลับมาบอกว่า “รอสักครู่นะครับ” สักพักใหญ่ๆเด็กเอากาแฟมาเสิร์ฟ ผมดื่มไปไม่ถึงครึ่งถ้วยก็หยุด ไม่ดื่มต่อ เพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ประมาณสี่ทุ่มทุกคนออกจากร้านนั้น บางคนไปต่อที่อื่น แต่ผมขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน

ผมเข้านอนประมาณห้าทุ่มเศษ ตื่นขึ้นมาตอนตีสี่กว่า ฤทธิ์แอลกอฮอล์หมดไปแล้ว แต่รู้สึกไม่สบาย หวิวๆ คลื่นไส้ ถ่ายท้อง ปวดหัว กล้ามเนื้อที่น่องมีอาการเกร็งๆคล้ายจะเป็นตะคริว นิ้วมือสั่นเล็กน้อย แต่ผมไม่ได้อาเจียนซึ่งอาจเป็นเพราะตั้งแต่กินข้าวเที่ยงเมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลยนอกจากเหล้าเบียร์และกาแฟ อาหารที่ผมกินเข้าไปตอนเที่ยงคงย่อยหมดแล้ว หรืออาจเป็นเพราะสารพิษที่ได้รับมีปริมาณไม่มากพอก็เป็นได้ ใช่แล้วครับ อาการดังกล่าวบ่งบอกว่าผมได้รับสารพิษ ผมพยายามดื่มน้ำสะอาดเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สารพิษในร่างกายเจือจางและช่วยขับพิษ ผมดื่มเข้าไปประมาณลิตรครึ่ง แล้วนอนพัก สองชั่วโมงต่อมาผมรู้สึกดีขึ้น แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะยังมีอาการอยู่ และสารพิษบางอย่างส่งผลร้ายแรงตามมาในภายหลังได้ สารพิษที่ผมได้รับส่งผลต่อเนื่องมาอีกหลายวัน

ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ด้วยการดูแลอย่างดีจากภรรยา ร่างกายผมค่อยๆฟื้นตัว โชคดีที่ผมดื่มกาแฟไม่ถึงครึ่งถ้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ว่า ผมประมาทเกินไป และมันตอกย้ำความเชื่อของเราว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการแค่กดดัน


(ความเป็นมา)

Tuesday, March 08, 2005

แขกไม่ได้รับเชิญ


เมื่อวันพฤหัสที่ 3 มีนาคม 2548 ภรรยาผมเปิดถังปุ๋ยน้ำชีวภาพ EM เพื่อจะเอาไม้คนตามปกติ ปรากฏว่าน้ำ EM มีกลิ่นเหมือนสารเคมี สีก็เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะน้ำ EM ถังนี้หมักมาหลายเดือนจนเข้าที่แล้ว ภรรยาผมจะคนปุ๋ยน้ำนี้เกือบทุกวัน เธอรู้ดีว่าสภาพปกติของมันเป็นอย่างไร เธอยังสังเกตว่าอ่างพลาสติกที่เธอวางทับฝาถังน้ำ EM ไม่ได้อยู่ในที่ของมัน แต่วางอยู่ที่พื้น สภาพการณ์ชี้ชัดว่ามีคนลอบเข้ามาในบ้านยามวิกาลและใส่สารบางอย่างลงในถังน้ำ EM แต่อาจเป็นเพราะความรีบร้อน จึงทำให้ลืมเอาอ่างพลาสติกวางกลับที่เดิม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนวันที่ 1 หรือ 2 มีนาคม เพราะครั้งสุดท้ายที่ภรรยาผมคนน้ำ EM คือวันที่ 1 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีอะไรผิดปกติ

การลอบเข้าบ้านยามวิกาลโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกลั่นแกล้งและข่มขู่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เราย้ายมาอยู่บ้านนี้เมื่อสามปีก่อน (ดูการข่มขู่ให้กลัว) เราพบก้นกรองบุหรี่อยู่ที่พื้นดินระหว่างตัวบ้านกับต้นไม้ที่ปลูกตามแนวรั้วด้านหนึ่งเป็นประจำ เราสองคนไม่สูบบุหรี่ คนในบ้านข้างเคียงติดรั้วด้านนั้นก็ไม่สูบบุหรี่ ต้นไม้บริเวณดังกล่าวจะไม่สมบูรณ์ การเจริญเติบโตช้ามากแม้จะพยายามดูแลอย่างดีก็ตาม และบางต้นจะโทรมเป็นพิเศษทั้งๆที่เป็นพันธุ์ไม้ที่เลี้ยงง่ายโตเร็ว

….เฮ้อ… ทำทุกอย่าง ไม่ละเว้นแม้แต่ต้นไม้ หมักปุ๋ยน้ำเพื่อที่จะเอาไปบำรุงต้นไม้ก็ถูกกลั่นแกล้ง เพียงเพื่อกดดันเรา ต้องทำให้ชีวิตมันมีแต่สิ่งที่ไม่น่ารื่นรมย์อยู่รอบๆ ในบ้านก็เล่นงานที่ต้นไม้ ข้างบ้านก็มีคลองที่ดำสนิทจนเหลือเชื่อ แถมบางวันยังมีขยะเต็มคลอง (เต็มทุกตารางนิ้วจริงๆ)สงบนิ่งอยู่เฉพาะที่หน้าบ้านของเรา แล้วอากาศที่หายใจล่ะ เดี๋ยวจะมีแรงมาต่อสู้ ต้องให้สูดดมสารพิษเข้าไปทุกวัน ให้ลืมไปเลยว่าอากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างไร (เรื่องสารพิษนี้เป้าหมายซ่อนเร้นซึ่งเป็นความต้องการที่แท้จริงคือการตายอย่างไร้ร่องรอยซึ่งอาจออกมาในรูปของมะเร็ง หรือตับไตถูกทำลาย แต่เขาจะทำให้คนที่ร่วมกิจกรรมกับพวกเขาเข้าใจว่าเป็นแค่วิธีการกดดันเท่านั้น) ยังไม่หมด อย่าให้ได้อยู่อย่างสงบ เดินผ่านบ้านหลังนี้ก็อย่าลืมส่งเสียงนะ (ทั้งขาประจำขาจร) เท่านั้นยังไม่พอ ต้องเสริมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่ช้าโจมตีถึงบ้าน (พวกซาเล้ง, ค้าเร่อื่นๆ) ครับ ความเลวร้ายในอีกด้านหนึ่งของสังคมไทยยังคงดำเนินต่อไปเหมือนที่เป็นมาในอดีต อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่สังคมนี้หรือโลกใบนี้ยังมีเรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อมากกว่านี้อีกเยอะ และมันเกิดขึ้นแล้ว ที่บ้านของเรา