เช้าวันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2548 อากาศค่อนข้างเย็น ผมออกจากบ้านเดินไปสระว่ายน้ำใกล้บ้านบนเส้นทางที่เดินเป็นประจำ เมื่อผ่านชุมชนผู้บุกรุกที่สาธารณะริมคลองที่ตัดขวางซอยมาได้ไม่กี่เมตร ได้ยินเสียงผู้หญิงสองคนเดินคุยกันตามหลังมาติดๆ คิดว่าอยู่ห่างไปไม่เกิน 2 เมตร คนหนึ่งพูดเรื่องเงินของมูลนิธิแห่งหนึ่ง อีกคนพูดแต่คำว่า “หมา” กับ “หมาใน” ฟังอยู่สักพักพบว่าสองคนนี้พูดคนละเรื่องเดียวกัน คือต่างคนต่างก็พูดเรื่องของตัว และประโยคหรือคำพูดก็ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ผู้กำกับการแสดงอาจมือไม่ถึง เซ็ตมุขสั้นไป หรืออาจต้องการจะเน้นเรื่อง “หมา” ให้มันจะๆกันไปเลยก็ได้ เมื่อชัดเจนว่าเป็นการเซ็ตมุข และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดท่องคำเหล่านั้นอย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงปากซอย ผมจึงคิดออกไปดังๆว่า “ก็หมาลอบกัดไง”
เหตุการณ์ข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของมุข “หมา” ที่อำนาจมืดและเครือข่ายผลประโยชน์ใช้กับเราเป็นประจำ ทุกที่ทุกโอกาส ผู้ปฏิบัติก็มีหลายระดับ (เครือข่ายอำนาจมืดครอบคลุมกลุ่มผลประโยชน์ทุกระดับ) ตั้งแต่พวกที่ดูดีมีสตางค์มีความรู้ ไปจนถึงพวกหากินตามบาทวิถี (ดู หมาประจำซอย)
พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนถึงจิตใจของคนพวกนี้ได้เป็นอย่างดี (โดยเฉพาะคนที่อยู่เบื้องหลัง) คนที่สามารถทำร้ายผู้ที่ไม่เคยทำอะไรพวกเขามาก่อน คนที่พวเขาไม่รู้จักด้วยซ้ำไป ขอให้มีใบสั่งมาเป็นใช้ได้ คุณธรรมกลายเป็นเรื่อง ไร้สาระ... สำหรับพวกเขา ชีวิตคือ ผลประโยชน์
พวกเขามุ่งทำลายเป้าหมายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะในวันพิเศษต่างๆ เช่น วันปีใหม่อย่างที่เล่ามานี้ จะมีการระดมก่อกวนเพื่อผลทางจิตวิทยา นี่หากอำนาจมืดสบโอกาสจริงๆผมคงไม่ได้มานั่งเขียนนั่งเล่าอะไรให้สังคมได้รับรู้กัน
วันนี้ก็เพิ่งเจอมุข “หมา” มาอีก ดูท่าจะชอบมุขนี้มาก (ยังมีมุขอื่นๆอีก แล้วผมจะเล่าให้ฟังวันหลัง) เลยคิดว่าถึงเวลาต้องทำอะไรบ้างแล้ว คงต้องให้ข้อมูลพวกเขาพิจารณาตัวเองบ้าง เพราะสำหรับคนบางประเภทเคยชินกับการใช้อำนาจและพวกพ้องรังแกคนอื่น นานวันเข้าจะไม่หันมามองตัวเอง
พวกที่ทำร้ายผู้อื่นโดยไม่เปิดเผย เขาเรียกว่า หมาลอบกัด
พวกที่รุมทำร้ายผู้อื่น เขาเรียกว่า หมาหมู่
พวกที่ชอบเสนอหน้าประจบประแจงเอาความดีความชอบ ชอบแสดงตัวเป็นผู้รู้ใจนายในทางเลวๆ เช่น รู้ว่านายเกลียดใครก็รีบไปกลั่นแกล้งให้ รวมทั้งพวกที่เต็มใจทำตามใบสั่งโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เขาเรียกว่า สุนัขรับใช้
ใครจัดอยู่ประเภทไหนก็ดูกันเอาเองนะครับ จะได้ไม่หลงไปยัดเยียดให้คนอื่น ไม่อย่างนั้นเขาจะว่าเอาได้ว่าเป็น “หมาหางด้วน”